Install Internet Information Services (IIS)

Internet Information Service คือ Web Server ชนิดหนึ่งที่มีมากับ Windows Server ซึ่งทำหน้าที่ให้บริการด้านข้อมูลผ่าน HTTP Protocol Port 80 หรือ HTTPS Port 443 ตามค่ามาตรฐาน รองรับการทำงานจาก Client ที่ร้องขอบริการผ่าน Web Browser ซึ่งโดยค่าพื้นฐานนั้น IIS สามารถใช้งานภาษา HTML ได้ แต่ทั้งนี้เราสามารถติดตั้งส่วนเสริมเพิ่มเติมเพื่อให้บริการภาษาอื่นได้อีก เช่น ASP, PHP เป็นต้น

บน Windows Server 2008 R2 นั้น เราจะติดตั้งบริการ IIS เวอร์ชั่น 7.5 ซึ่งสามารถเลือกติดตั้งได้จาก Role โดยไม่ต้องอาศัยแผ่นติดตั้งเหมือนบน Windows Server 2003, ขั้นตอนการติดตั้ง IIS 7.5 มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้

ในหน้า Server Manager คลิก Add Roles

หน้า Before You Begin คลิก Next

หน้า Select Server Roles เลือก Web Server (IIS)

หน้า Web Server (IIS) คลิก Next

หน้า Select Role Services ให้ปล่อยตามค่าที่ระบบเลือกไว้ให้ก่อน เราสามารถกลับมาเพิ่มภายหลังได้

หน้า Confirm Installation Selections คลิก Install

เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว สามารถเรียกใช้งานได้ผ่านเมนู Start > Administrative Tools > Internet Information Services (IIS) Manager หรือพิมพ์คำสั่ง inetmgr ในช่อง Run

เมื่อเปิด IIS 7.5 ขึ้นมาแล้ว เรามารู้จักหน้าตากันนิดนึง ซึ่งหากเราคลิกที่ชื่อ Server ที่ด้านซ้ายนั้น ทาง Panel ด้านขวาก็จะแสดง Component ต่าง ๆ ที่ถูกติดตั้งมากับ IIS โดยเราสามารถไปเพิ่มภายหลังใน Role ได้ หรือบาง Component ก็สามารถติดตั้งแยกต่างหากก็ได้เช่นกัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงค่าคอนฟิกใด ๆ ที่ตำแหน่งนี้ จะมีผลไปยัง Web Site ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ Web Server นี้ เนื่องจากมีการ Inherited ค่าคอนฟิกลงไปด้วย แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงค่าบางอย่างนี้ให้กับแต่ละ Web Site ให้เป็นค่าเฉพาะได้เช่นกัน เช่น ค่า Default Document

Default Document คือการตั้งค่าให้ IIS เรียกอ่านไฟล์เอกสารที่มีชื่อและสกุลไฟล์ที่มีอยู่ใน Site ตามลำดับ เช่น เมื่อมี Client ร้องขอ Site หนึ่งโดยเรียก www.website.local เมื่อ IIS ได้รับคำร้องขอ ก็จะหาไฟล์ Default.htm มาแสดงให้ Client ผ่านทาง Web Browser ซึ่งถ้าหาก Site นั้นไม่มีไฟล์ดังกล่าวอยู่ ก็จะไปเรียกไฟล์ถัดไปคือ Default.asp ให้มาแสดงแทน เป็นเช่นนี้ไปตามลำดับ โดยการตั้งค่านี้จะสืบทอด Inherited ไปยัง Site ทุก Site ตามที่ได้อธิบายไป ดังนั้นหาก Site ใดไม่ต้องการค่าดังกล่าว เช่น ต้องการให้เรียกไฟล์ myindex.html เป็นลำดับแรก ก็สามารถตั้งค่าได้ดังนี้

คลิก Site ที่ต้องการ เลือก Default Document

คลิก Add แล้วพิมพ์ myindex.html ลงไป

ก็จะได้ myindex.html มี Entry Type เป็น Local ซึ่งก็จะมีผลกับ Site นี้เท่านั้น

ให้เราทดสอบเปิดหน้า Web Site ของเดิมที่มีอยู่ก่อน โดยคลิก Browse

เราจะได้หน้า IIS ที่เป็นหน้าเริ่มต้นมาแสดงจากไฟล์ที่มีชื่อว่า iisstart.htm

จากนั้นให้เราสร้างไฟล์ที่มีชื่อว่า myindex.html มีข้อความอะไรก็ได้ ไปวางไว้ที่ตำแหน่ง C:\inetpub\wwwroot (ตามค่าพื้นฐาน)

คราวนี้หากเรา Browse Site อีกครั้ง เราก็จะได้หน้าแรกที่เป็นของเราเองแล้ว

อีกส่วนหนึ่งที่ควรรู้จักก็คือ Application Pool ซึ่งผมพูดง่าย ๆ ก็คือ ตัวขับเคลื่อน Web Site คล้าย ๆ กับ Service หรือ Worker Process อย่างหนึ่งที่ทำให้ Web Site นั้นทำงานได้ โดย Application Pool หนึ่งนั้นสามารถรองรับการใช้งานได้จากหลาย Site แต่ในมุมมองจาก Site นั้นสามารถเลือกสังกัด Application ได้เพียง 1 Application Pool เท่านั้น

วิธีดูว่า Site นั้นใช้งานกับ Application Pool ตัวใดอยู่ ให้คลิก Advanced Settings

ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนให้ไปใช้ Application Pool ตัวอื่นแทนได้

สาเหตุที่มีเอาไว้ปรับเปลี่ยนก็เพื่อการทำงานต่าง Application และป้องกันการถูกรบกวนจาก Application อื่น ๆ ซึ่งถ้าหากเราลอง Stop Application Pool ก็จะส่งผลให้ Site นั้นถูกปิดการทำงานไปด้วย ดังนั้นหากมีหลาย Site ก็ควรแยก Application Pool ไว้จะดีกว่า เพราะถ้าหาก Application Pool ตายตัวนึง ก็จะส่งผลให้ Site ตายพร้อมกันทั้งหมดได้เลย